ประวัติพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายกของมวลชล

          เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับการลงคะแนนเลือกตั้งจากประชาชนชาวไทยมากกว่า 14 ล้านเสียง พร้อมกับกวาดที่นั่ง ส.ส. ในสภาไปมากกว่า 151 เสียง ซึ่งทำให้มองทุกด้านเรียกได้ว่าพรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองที่ชนะเป็นอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล

ต่อมาได้มีการจัดทำ MOU ร่วมกับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยอีก 8 พรรค ซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย ที่ได้ ส.ส. อยู่ที่ 141 เสียง และพรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคก้าวไกล ที่ได้คะแนนมากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นการรวมเสียง ส.ส. ในสภาไปแล้วถึง 312 เสียง ต้องการอีกเพียง 63 เสียงในสภาที่ต้องให้การรับรอง

และแล้ววันโหวตนายกรอบแรกก็มาถึง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งในวันนั้นมีการเปิดอภิปรายถึงคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ได้เป็นคนเสนอนายพิธา ให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีคุณสมบัติพร้อมเพียงในการเป็นนายก ทั้งมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล มีแนวคิดที่เป็นผู้นำ มีการจัดการกับอารมณ์ได้ดี และการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับสื่อต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว

แต่อย่างไรก็ตาม มี ส.ส. ในสภา ทั้งจากพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้กล่าวโจมตีนายพิธา อยู่หลายเรื่อง รวมทั้ง ส.ว. หลายคน โดยได้อภิปรายว่านายพิธา ยังขาดคุณสมบัติ ดังนี้

• เรื่องการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของพระมหากษัติย์
• เรื่องการถือหุ้นสื่อ

ทำให้ในวันนั้น ทั้งสภาโหวตรับรองให้นายพิธา ไปเพียงแค่ 324 คน จาก 750 เสียง ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 376 เสียง ทำให้การโหวตในรอบแรกต้องตกไป