ประวัติพรรคประชาธิปัตย์ (Democrat Party)
ประวัติพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ (Democrat Party) เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2489 โดยพันตรี ควง อภัยวงศ์ ภายหลังจากนั้น พรรคได้เปลี่ยนชื่อจาก “พรรคก้าวหน้า” เป็น “พรรคประชาธิปัตย์” เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2491

- สิงหาคม 23, 2023
- 5:32 pm
การก่อตั้งพรรคประชาธิปปัตย์ ประวัติพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยพันตรีควง อภัยวงศ์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2489 แต่พรรคถือว่าวันที่ 6 เมษายน เนื่องจากเป็นวันจักรีเป็นวันก่อตั้งพรรค พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมและกษัตริย์นิยม
ในการเลือกตั้งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2489 พรรคประชาธิปัตย์ต้องแข่งขันกับพรรคที่สนับสนุนนายปรีดี พนมยงค์ และพรรคก้าวหน้าของสองพี่น้องจากราชสกุลปราโมช คือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชและ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
แม้ว่ากลุ่มพันธมิตรที่นำโดยนายปรีดีจะได้รับเสียงมากที่สุดในรัฐสภา อย่างไรก็ตาม นายปรีดีปฏิเสธการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐสภาได้แต่งตั้งพันตรีควงเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2
แต่ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2489 พันตรีควงลาออกจากตำแหน่งพร้อมกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ หลังจากแพ้โหวตในร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยนายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ ส.ส. อุบลราชธานี ด้วยคะแนน 65-63 เสียง และถูกแทนที่โดยนายปรีดี
พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม พรรคยึดมั่นในระบอบกษัตริย์ และสนับสนุนเศรษฐกิจแบบเสรี พรรคยังเน้นการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของประชาชนอีกด้วย
ในอดีต พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นแกนนำในการก่อตั้งรัฐบาลหลายครั้ง และมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ถึง 4 คน ได้แก่ พันตรี ควง อภัยวงศ์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
พรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน และมีสาขาพรรคกว่า 1,000 สาขา ฐานเสียงหลักของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในภาคใต้และกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในทางการเมืองไทยมาโดยตลอด
วันที่ 6 เมษายน ของทุกปีถือเป็นวันเกิดของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ของประเทศไทย. แต่ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 6 เมษายน แต่จริงๆ แล้วเป็นวันที่ 5 เมษายน ตามคำบอกเล่าของ นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนแรก
ข้อดีของพรรคประชาธิปปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้เป็นพรรคการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในทางการเมืองไทย ดังนี้:
ประชาธิปไตยและเสรีนิยม: พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม พรรคยึดมั่นในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของประชาชน และเน้นการสนับสนุนเศรษฐกิจแบบเสรี
การเป็นแกนนำในการก่อตั้งรัฐบาล: พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นแกนนำในการก่อตั้งรัฐบาลหลายครั้งในอดีต และมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ถึง 4 คน ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในพรรคนี้
ความเข้มแข็งในการเลือกตั้ง: พรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน และมีสาขาพรรคกว่า 1,000 สาขา ซึ่งแสดงถึงความเข้มแข็งในการเลือกตั้งและการเป็นกำลังสนับสนุนในการดำเนินงานทางการเมือง
การมีฐานเสียงหลักในภาคใต้และกรุงเทพมหานคร: พรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงหลักอยู่ในภาคใต้และกรุงเทพมหานคร ที่เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในการเลือกตั้งและการดำเนินการทางการเมืองในประเทศไทย
ความเป็นประวัติการณ์: พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2489 และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทยตลอดระยะเวลาหลายสิบปี
เนื่องจากข้อดีของพรรคการเมืองสามารถมีความหลากหลายและมีมุมมองต่างกันได้ การให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อดีของพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงแค่ภาพรวม และอาจมีข้อดีอื่นๆที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในข้อความนี้
ข้อเสียของพรรคประชาธิปปัตย์
การเป็นพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่น ๆ ก็มีข้อเสียบางอย่างที่อาจจะต้องพิจารณาด้วยด้วย
การแบ่งแยกและการท้าทาย: การเป็นพรรคการเมืองอาจส่งผลให้มีการแบ่งแยกในสังคม และการท้าทายกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งและการแตกแยกในสังคม
การใช้ความเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ: บางพรรคการเมืองอาจใช้ความเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการเพิ่มอำนาจและความเป็นผู้นำ ซึ่งอาจทำให้เกิดการแข่งขันและการใช้เลือกตั้งในทางที่ไม่เต็มใจ
การเลือกตั้งไม่สมาคม: บางครั้งการเป็นพรรคการเมืองอาจทำให้การเลือกตั้งไม่สมาคม โดยการให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งของพรรคแทนที่จะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งที่เป็นรากฐานของระบบประชาธิปไตย
การเป็นพรรคในระยะยาว: การเป็นพรรคการเมืองอาจทำให้เกิดความเครียดและการแย่งชิงอำนาจในระยะยาว โดยอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในการนำพรรคและการแข่งขันในการเป็นผู้นำในอนาคต
การเสียสละความเป็นอิสระ: การเป็นพรรคการเมืองอาจเสียสละความเป็นอิสระและความเสรีของสมาชิก โดยอาจต้องปฏิบัติตามนโยบายและกฎระเบียบของพรรค และอาจต้องเสียสละความเห็นต่างๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับพรรค
ติดตามข่าวการเมืองเพิ่มเติมได้ที่ :: ข่าวการเมืองล่าสุด
พรรคประชาธิปปัตย์
#ข่าวการเมือง
#ปชป
#ส.ส.
#พรรคประชาธิปัตย์
#ประชาธิปัตย์
#พรรค
#โลโก้พรรค
#สสประชาธิปัตย์
#งูเห่า